หน้าเว็บ

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

น้ำมันมะพร้าวช่วยลดน้ำหนัก

ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำมัน ใครๆ ก็กลัวว่าน่าจะทำให้อ้วน เพิ่มน้ำหนักมากกว่าจะช่วยลดน้ำหนักได้ แต่เพื่อนๆ คะ น้ำมันมะพร้าวไม่ได้เป็นอย่างที่เรากลัวกัน สมัยก่อนตอนเราเรียนหนังสือจะเรียนมาว่าน้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันที่มีไขมันชนิดเลว เหมือนกับน้ำมันปาล์มหรือน้ำมันหมู ต้องหลีกเลี่ยงการบริโภคเพราะจะทำให้มีโอกาสเป็นโรคทั้งโรคอ้วน โรคไขมันอุดตันเส้นเลือด โรคหัวใจ ฯลฯ แต่ในยุคปัจจุบันน้ำมันมะพร้าวไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดหรือเรียนมาเหมือนเมื่อครั้งสมัยยังเด็ก ทั้งนี้มีรายงานการวิจัยทางวิชาการจากหลายแหล่งและการพิสูจน์จากผู้ใช้จริงในชีวิตประจำวันของผู้คนในประเทศที่ใช้ผลิตผลมะพร้าวเป็นหลักมายาวนาน เช่นชนชาวโพลีนีเชียนในหมู่เกาะทางแปซิฟิกและประชากรในประเทศแถบเอเชีย เช่น ศรีลังกา ที่ใช้มะพร้าวในการปรุงอาหารแต่กลับไม่ค่อยมีปัญหาโรคหัวใจ หลอดเลือดหัวใจ มะเร็ง รวมไปถึงภาวะเสื่อมต่างๆ ของร่างกาย มีตัวอย่างงานวิจัยในชนพื้นเมืองบนหมู่เกาะปุกาปุกาและโทเคเลาในเขตแปซิฟิกใต้ซึ่งกินมะพร้าวเป็นหลัก เช่น ดื่มน้ำมะพร้าว กินเนื้อมะพร้าว กินกะทิ น้ำมันมะพร้าวใช้ทอด มีน้ำตาลที่ทำจากมะพร้าว ชนชาวเกาะทั้งสองใช้มะพร้าวกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน แต่ไม่มีปัญหาสุขภาพอะไร แถมยังมีสุขภาพดีเยี่ยมเมื่อเทียบกับมาตรฐานของฝรั่งชาติตะวันตก นอกจากนี้ชนชาวศรีลังกาที่ใช้น้ำมันมะพร้าวทำอาหาร ทำแกงกะหรี่กันมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ กลับมีอัตราการป่วยด้วยโรคหัวใจเพียงแค่ 1 ต่อแสนคนเท่านั้น

แต่เมื่อโลกเปลี่ยนไป วัฒนธรรมการกินแบบตะวันตกเริ่มแพร่หลายเข้าไปสู่ส่วนต่างๆ ของโลก ทุกคนหันมาบริโภคไขมันชนิดอื่นๆ อาทิ น้ำมันถั่วเหลืองที่ชาติตะวันตกพยายามโปรโมตว่าดีต่อสุขภาพ แต่ผู้คนกลับพากันเจ็บป่วยมากขึ้นด้วยโรคไขมันเลือดสูง โรคอ้วน โรคหัวใจ เบาหวาน เส้นเลือดตีบ ฯลฯ

ทำไมน้ำมันมะพร้าวซึ่งถูกตีตราว่าเป็นน้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ไม่ดีต่อสุขภาพ กลับทำให้ชนชาวเกาะทั้งหลายมีสุขภาพดีได้ ทำไมชนชาวศรีลังกาที่ใช้น้ำมันมะพร้าวประกอบอาหารทุกวันจึงมีอัตราการเป็นโรคหัวใจเพียง 1 ต่อแสนคน ในขณะที่ชาวอเมริกันที่นำเสนอน้ำมันถั่วเหลืองว่าดีต่อสุขภาพยิ่งกว่าน้ำมันมะพร้าวจึงมีอัตราป่วยเป็นโรคหัวใจมากถึง 125 คน ต่อแสน

ในที่นี้จะพูดถึงเรื่องของความอ้วน ซึ่งในวงการลดน้ำหนักได้พยายามคิดสูตรลดน้ำหนักต่างๆ นานา มาเสนอผู้ที่อยากลดความอ้วน โดยมากมักเป็นสูตรอาหารที่มีมวลเยอะเพื่อเข้าไปจองพื้นที่ในกระเพาะ ช่วยไม่ให้หิว บางสูตรก็ประดิษฐ์อาหารคุมน้ำหนักสำเร็จรูปเป็นซองๆ บ้าง เป็นกระป๋องบ้าง ปรุงรสแบบต่างๆ ให้อร่อย สามารถเปิดกินได้ทันที น้ำมันมะพร้าวก็เข้ามามีบทบาทเรื่องนี้เช่นกัน เพราะน้ำมันมะพร้าวได้ชื่อว่าเป็น “น้ำมันแคลอรี่ต่ำ” และมีส่วนช่วยลดน้ำหนักได้ แต่แม้จะได้ชื่อว่าแคลอรี่ต่ำก็ยังอยู่ที่ 8.6 แคลอรี่ ซึ่งก็ยังสูงกว่าแป้งและโปรตีนอยู่ดี แต่สาเหตุที่น้ำมันมะพร้าวช่วยลดน้ำหนักได้ก็เพราะเมื่อกินน้ำมันมะพร้าวร่วมกับอาหารอย่างเหมาะสม จะทำให้รู้สึกอิ่มท้อง ไม่ต้องกระวนกระวายอยากกินของจุบจิบ ซึ่งเป็นปกตินิสัยที่ไม่ค่อยดีของคนอ้วนทั้งหลายอยู่แล้ว

ตามปกติน้ำมันทุกชนิดในอาหารที่เรากินไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหมู น้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด น้ำมันทานตะวัน แม้กระทั่งน้ำมันมะกอก ล้วนเป็นกรดไขมันสายยาว แต่ในงานวิจัยที่มหาวิทยาลัยแม็กกิล ประเทศแคนาดาพบว่า ถ้าเราใช้น้ำมันมะพร้าวซึ่งเป็นกรดไขมันสายกลางแทนน้ำมันชนิดอื่นๆ มาปรุงอาหารกินตลอดปี จะสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 15 กก. ต่อปี  (St-Onge, M. and Jones, P.J.H. Physiological effects of medium-chain triglycerides: potential agents in the prevention of obesity. J of Nutr 2002; 132(3): 329-332.)

ดร.บรู๊ซ ไฟฟ์ สรุปไว้ในประเด็นนี้ว่าการกินน้ำมันมะพร้าวจะช่วยลดน้ำหนักได้ก็ต่อเมื่อคุณกินอาหารที่เหมาะสมและออกกำลังกายร่วมด้วย น้ำมันมะพร้าวจะเข้ามาเป็นตัวเสริมเพราะทำให้อิ่มและเร่งอัตราเผาผลาญนั่นเอง งานวิจัยของสกาฟี (Scalfi, L., et. Al. Postpandial thermogenesis in lean and obese subjects after meals supplemented with medium-chain and long-chain triglycerides, Am J Clin Nutr 1991; 53:1130-1133).  เขาศึกษาพลังงานที่ใช้ก่อนและหลังมื้ออาหารที่ใส่น้ำมันสายกลาง พบว่าในคนรูปร่างปกติเมื่อกินน้ำมันมะพร้าวแล้ว อัตราเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น 48%  ในขณะที่ในคนอ้วนพบว่าน้ำมันมะพร้าวช่วยให้อัตราเผาผลาญเพิ่มขึ้น 65% เลยทีเดียว  นั่นแปลว่าคนอ้วนจะถูกกระตุ้นให้เผาผลาญอาหารได้เร็วขึ้นด้วยน้ำมันมะพร้าวมากกว่าคนผอม แต่จุดที่สำคัญกว่านั้นคือ ผลการเร่งอัตราเผาผลาญไม่ใช่เกิดขึ้นเพียง 1-2 ชั่วโมงหลังอาหารเท่านั้น หากแต่มันมีผลเพิ่มอัตราเผาผลาญได้นานถึง 24 ชั่วโมงด้วย (Dulloo, A.G. et al. Twenty-four-hour energy expenditure and urinary catecholamines of humans consuming low-to-moderate amount of medium-chain triglycerides: a dose-response study in a human respitory chamber. Eur J Clin Nutr 1996; 50(3):152-158)  ผลก็คือแม้จะกินน้ำมันมะพร้าวเข้าไปเพียงมื้อเดียว เราก็จะรู้สึกว่าร่างกายมีการเผาผลาญที่ให้พลังงานดีขึ้นตลอดทั้งวัน มีเรี่ยวแรงในการทำงานมากขึ้น

ปริมาณน้ำมันมะพร้าวที่ควรกินเพื่อให้ได้ผลในการลดน้ำหนัก คือ กินก่อนอาหารครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 2-3 ครั้ง ตามสัดส่วนของน้ำหนักตัว การกินก่อนอาหารจะทำให้รู้สึกอิ่มท้อง

ตารางแนะนำปริมาณการกินน้ำมันมะพร้าวต่อวันเทียบกับน้ำหนักตัว
น้ำหนักตัว                                                 ช้อนโต๊ะต่อวัน

79 กก. หรือมากกว่า                                            4

68 กก.                                                                 3 1/2

57 กก.                                                                 3

45 กก.                                                                2 1/2

34 กก.                                                                2



จากตารางจะเห็นว่าเราแนะนำให้คนทั่วไปกินน้ำมันมะพร้าวประมาณ 3 ช้อนโต๊ะต่อวัน และจะเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักตัวซึ่งกลับจะลดน้ำหนักหรือไขมันเลือด แต่ทั้งนี้เมื่อน้ำหนักลดลงแล้วต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินด้วย อย่ากินแต่แป้ง ข้าวขัดขาว อาหารขยะ นม รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากนมวัว น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ ให้หันมากินข้าวกล้อง และผักผลไม้ให้มากขึ้น รวมทั้งหมั่นออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญแคลอรี่ส่วนเกินออกไปด้วย

เพื่อนๆ คะ น้ำมันมะพร้าวในที่นี้คือน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นค่ะ ซึ่งปัจจุบันมีผลิตและจำหน่ายกันค่อนข้างแพร่หลายแล้ว สามารถหาซื้อมาบริโภคหรือใช้กันไม่ยากค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : นพ. บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล และ ดร. ณรงค์ โฉมเฉลา. น้ำมันมะพร้าวรักษาโรค. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ. รวมทรรศน์, 2551

ไม่มีความคิดเห็น: