หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อาหารที่มีประโยชน์ต่อคุณแม่ตั้งครรภ์

ช่วงนี้ขอต่อด้วยข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับแม่และลูกกันก่อนนะคะ เพราะยังไม่ไกลช่วงเทศกาลวันแม่เท่าไหร่นัก

ต้องขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ สำหรับคนที่รู้ว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์และจะมีลูกน้อยมาโอบอุ้มในอ้อมแขนไม่ช้านี้แล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องดูแลตัวเองให้มากๆ นะคะ โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน สำหรับวันนี้ Happy Adminได้หาข้อมูลดีๆ มาให้คุณแม่ตั้งครรภ์อ่านกันค่ะ

อาหารที่เหมาะสมกับคุณแม่ตั้งครรภ์มีดังนี้

โปรตีน จะเป็นสารอาหารที่ช่วยทำให้ร่างกายเจริญเติบโตและซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอไป จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับลูกในการก่อร่างสร้างเลือดเนื้อให้เป็นตัวเป็นตน คุณแม่ตั้งครรภ์จึงต้องการอาหารประเภทนี้เพิ่มเติม ซึ่งได้แก่ เนื้อ นม ไข่ และถั่ว เป็นต้น เนื้อที่ว่านี้อาจเป็นเนื้อหมู เนื้อเป็ดหรือไก่ก็ได้ เนื้อสัตว์เหล่านี้มีโปรตีนคุณภาพดี มีธาตุเหล็กมาก
นอกจากนี้ควรกินตับด้วยสักสัปดาห์ละครั้ง เนื้อปลาก็มีโปรตีนดีทีเดียว ไขมันไม่มาก แต่ธาตุเหล็กน้อยไปหน่อย
ไข่ก็มีโปรตีนครบถ้วน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นอาหารที่กินง่าย กินสักวันละ 1 ฟอง ดื่มนมสดวันละ 2-3 แก้ว แต่ไม่ควรดื่มนมข้นหวานเพราะโปรตีนน้อยมาก มีแต่ไขมันกับน้ำตาล ถ้าไม่ดื่มนมสดอาจจะดื่มนมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้ก็ได้

แป้งและน้ำตาล อาหารประเภทนี้ได้แก่ ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมหวาน ฯลฯ ปกติเราไม่ควรกินมากนัก โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย สำหรับหญิงตั้งครรภ์ควรจะรับประทานอาหารประเภทนี้น้อยลง เพราะว่าในระหว่างตั้งครรภ์นั้นร่างกายจะเผาผลาญแป้งและน้ำตาลได้น้อยลง และระบบย่อยก็ไม่ปกติ ถ้ากินมากไปก็อาจทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อได้ง่าย กินแต่พอสมควรก็แล้วกัน สำหรับผู้ที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากเกินไป ก็ควรกินข้าวและขนมหวานให้น้อยลง แล้วกินผักและผลไม้แทนจะดีกว่า

ไขมัน เป็นอาหารอีกประเภทหนึ่งที่ควรระวังและหลีกเลี่ยง เช่น อาหารทอด หรือผัดที่ใส่น้ำมันมากๆ เพราะความต้องการของร่างกายน้อยลงแล้วก็ย่อยยากด้วย เหมือนกับพวกแป้งและน้ำตาล กินมากมีแต่ทำให้ท้องอืด เฟ้อ แน่นท้อง อึดอัด เพิ่มน้ำหนักตัวของคุณโดยแปรเป็นไขมันจับตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย

ผัก ถั่ว ผลไม้และน้ำผลไม้ มีประโยชน์มาก เพราะมีทั้งโปรตีนและวิตามินต่างๆ ที่ร่างกายต้องการ แล้วช่วยเรื่องระบบขับถ่ายอุจจาระด้วย เรียกว่า กินง่าย ถ่ายคล่อง ราคาก็ไม่แพง เพราะเมืองเรามีกินตลอดปี แต่ก็มีเรื่องควรระวังเป็นพิเศษคือ สารพิษประเภทยาฆ่าแมลงตกค้างอยู่ในผักและผลไม้ ควรแช่น้ำนานๆ ราว 10-15 นาที หรือให้น้ำก๊อกไหลผ่านตลอดเวลาราว 2 นาที หรือใช้น้ำยาล้างผัก ผลไม้ ล้างให้สะอาดแล้วจึงค่อยบริโภค
ควรรับประทานผลไม้เหล่านี้สลับกันทุกวัน เช่น กล้วย เงาะ มังคุด มะละกอ ส้มเขียวหวาน สับปะรด เป็นต้น

วิตามินและแร่ธาตุ ช่วงตั้งครรภ์และหลังคลอดนั้นร่างกายของคุณแม่ต้องการวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เช่นวิตามิน เอ บี ซี ดี กรดนิโคตินและกรดโฟลิก ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส ซึ่งถ้ากินอาหารถูกส่วนก็มักจะได้วิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้ครบตามที่ร่างกายต้องการแล้วคือ ธาตุเหล็กซึ่งช่วยให้เม็ดเลือดมีมากพอที่จะลำเลียงออกซิเจนจากเลือดแม่ไปยังลูก จะได้จากอาหารจำพวก ตับ ไข่แดง ผักใบเขียว เช่น ผักขม ตำลึง และอาหารเนื้อสัตว์ทุกชนิด ส่วนแคลเซียมซึ่งช่วยในการสร้างกระดูกและฟันของลูก จะได้จากนม เนยเป็นส่วนใหญ่
แต่ว่าในชีวิตประจำวัน เราไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ว่าอาหารที่กินอยู่นั้น เราได้สารอาหารครบถ้วนหรือไม่ ดังนั้นสูติแพทย์จึงต้องจ่ายยาบำรุงซึ่งประกอบด้วย วิตามินรวมและธาตุเหล็กให้ด้วย เพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2-3 เดือนหลัง ซึ่งร่างกายต้องการแคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็กเพิ่มขึ้นมากกว่าระยะแรกๆ ของการตั้งครรภ์ คุณแม่ควรกินยาบำรุงตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดเพื่อสุขภาพของตนเองและลูกน้อยในครรภ์

ของต้องห้ามสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
โดยทั่วไปอาหารที่กินกันอยู่ประจำก็ไม่ห้ามอะไร ยกเว้นอาหารที่จะทำให้เสาะท้อง ท้องเสียได้ง่าย ทำให้ร่างกายไม่ได้รับคุณค่าของสารอาหารที่กินเข้าไปอย่างเต็มที่ เท่ากับกินเข้าไปเสียเปล่า หรืออาหารที่มีรสจัดมากก็ควรจะงดหรือพยายามหลีกเลี่ยงเสีย เพราะว่าระหว่างตั้งครรภ์นั้นระบบย่อยอาหารจะผิดปกติไปจากเดิม มีโอกาสที่จะท้องอืด ท้องเฟ้ออยู่บ่อยๆ สำหรับผู้ที่แพ้อาหารบางชนิดเช่น อาหารทะเล ก็อย่าเผลอกินเข้าไป เพราะบางคนจะมีอาการแพ้มากขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์

ยาจีนหรือยาหม้อ ซึ่งเล่ากันว่าเป็นยาบำรุงนั้น ในวงการแพทย์แผนปัจจุบันยังไม่มีการพิสูจน์กันว่ามีประโยชน์มากน้อยเพียงใด ตำรับหรือส่วนผสมก็ไม่แน่นอน บางอย่างราคาแพงมาก ไม่จำเป็นต้องซื้อมากินหรอกเพราะอาจจะไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป บางรายอาจแพ้ยาเหล่านี้ ขอให้กินอาหารที่มีประโยชน์ตามที่แนะนำไว้แล้วและกินยาบำรุงซึ่งได้แก่ วิตามินและธาตุเหล็กตามที่แพทย์ให้มาจะดีกว่า เพราะได้มีการพิสูจน์แล้วว่ามีความจำเป็นและมีประโยชน์แน่นอน

ผงชูรส คุณผู้หญิงตั้งครรภ์และทารกไม่ควรรับประทานอาหารที่ใส่ผงชูรส เพราะอาจจะเป็นตัวทำลายหรือมีผลต่อการเจริญเติบโตของสมองลูกได้

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คุณแม่บางคนอาจจะอยู่ในสังคมธุรกิจ บางทีก็มีงานเลี้ยงสังสรรค์ ถ้าจิบเพียงนิดหน่อยไม่น่าจะต้องห้ามเพราะปริมาณเล็กน้อย จะไม่มีอันตรายต่อคุณแม่และลูกน้อยแต่อย่างใด แต่ถ้าดื่มมากเกินไปก็ไม่ดีจนติดเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังแล้วละก็อาจจะเกิดอันตรายได้ ลูกที่เกิดมาอาจจะมีน้ำหนักน้อยเติบโตช้า มีอาการติดเหล้า อาจปัญญาอ่อน เกิดความพิการของหัวใจและหลอดเลือดได้

บุหรี่ เชื่อกันว่าสารนิโคตินในบุหรี่สามารถผ่านรกไปยังตัวเด็กได้ซึ่งจะเข้าไปกดการทำงานของสมองส่วนที่ควบคุมการหายใจและการเต้นของหัวใจ ดังนั้นคุณแม่ที่ตั้งครรภ์แล้วสูบบุหรี่มากกว่าวันละ 10 มวนอาจเกิดผลร้ายขึ้นมาได้คือ มีโอกาสแท้งลูกหรือคลอดก่อนกำหนดได้มากกว่าคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ และถึงแม้จะคลอดครบกำหนดวันก็ตาม ลูกก็มักจะมีน้ำหนักน้อย ตัวเล็กกว่าปกติและจะชักได้ง่าย
เชื่อไหมว่าคุณผู้หญิงที่มีครรภ์แม้ไม่ได้สูบบุหรี่เอง หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยควันบุหรี่ ก็จะส่งผลร้ายต่อการตั้งครรภ์ได้เหมือนกัน เช่น คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ทำงานอยู่ในห้องปรับอากาศที่มีคนสูบบุหรี่ทั้งวันก็เหมือนกับคุณแม่สูบเสียเอง ทั้งนี้บุหรี่แบบก้นกรองก็ไม่มีข้อยกเว้นด้วย

น้ำชา กาแฟ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น ถ้าดื่มน้ำชาแก่ๆ จะทำให้ท้องผูกง่าย คนที่ท้องผูกอยู่แล้วน่าจะหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำชา เพราะเวลาตั้งครรภ์ไม่ควรจะให้ระบบขับถ่ายผิดปกติจะทำให้อึดอัดมากและเกิดริดสีดวงทวารได้ง่าย ส่วนกาแฟนั้นถ้าดื่มมากไปอาจะทำให้ใจสั่นและนอนไม่หลับ เพราะคาเฟอีนในกาแฟทำให้หัวใจเต้นแรง

ข้อมูลอ้างอิงจาก: รศ.นพ.สุวชัย อินทรประเสริฐ.คู่มือดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์.พิมพ์ครั้งที่ 2.กรุงเทพฯ.แปลน พริ้นท์ติ้ง,2539

ไม่มีความคิดเห็น: